ในโลกธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การเสนอบริการหรือผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง องค์กรต่าง ๆ มักมองหาวิธีในการลดค่าใช้จ่าย ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มกำไร ในการดำเนินธุรกิจ การใช้บริการ Outsourcing และ Subcontracting เป็นกลยุทธ์ที่พึงสนใจเพื่อช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จในวัตถุประสงค์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับนิยามและความแตกต่างระหว่าง Outsource และ Subcontract อาจมีความสงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ ดังนั้น เราจะมาอธิบายและเปรียบเทียบระหว่างสองอย่างนี้เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น
Outsource :
Outsource หมายถึง การให้ภาระงานหรือการดำเนินการบางอย่างให้กับบริษัทหรือบุคคลภายนอก โดยทั่วไปแล้ว เหตุผลหลักในการ Outsource คือเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ การ Outsource สามารถทำได้ทั้งในภาคธุรกิจเฉพาะหรือทั่วไป เช่น การ Outsource บริการพนักงานธุรการ ประชาสัมพันธ์ คนขับรถ หรือแม้กระทั่ง Programmer โดย Outsource จะรับผิดชอบในการดำเนินงานตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาทั้งหมด และต้องให้ผลงานที่มีคุณภาพตามที่ตกลงกันไว้ หมายความว่า บริษัทที่จ้าง สามารถทำงานอื่นที่เป็นงาน Core Function หลักของบริษัทได้เลย นอกนั้น Outsource จัดการให้ทั้งหมด อ่านข้อดีของ Outsource ข้ออื่นๆได้ที่นี่
Subcontract :
เป็นการนำเสนอรูปแบบของการบริการรับจ้างเหมาแรงงาน โดยสามารถกล่าวเรียกได้ว่า “ผู้รับจ้างงานช่วง” หรือสามารถอธิบายการให้การบริการลักษณะนี้อย่างละเอียด กล่าวคือ การรับช่วงงานบางส่วนจากผู้รับเหมาหลักไปทำ โดยที่ผู้รับเหมาหลักจะยังคงเป็นผู้รับผิดชอบงานทั้งหมดเช่นเดิม หรืออาจจะเป็นงานที่ต้องการทักษะและความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านของในแต่ละสายอาชีพ ซึ่งบริการ Sub-contractor ไม่ได้จำกัดความต้องการที่องค์กรต้องการหาพนักงานอยู่เพียงแค่ตำแหน่ง พนักงานทำความสะอาด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เท่านั้น แต่ยังได้ขยายความต้องการไปถึง พนักงานผลิต พนักงานขนส่งสินค้า พนักงานขับรถ รวมถึงพนักงานตำแหน่งอื่นๆทั่วไปอีกด้วย ซึ่งทำให้หลากหลายองค์กรที่ต้องการใช้บริการในรูปแบบดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง Outsource และ Subcontract :
- บทบาทของบริษัท Outsource และ Subcontract :
- Outsource: บริษัทหรือบุคคลที่ Outsource จะรับผิดชอบในการดำเนินงานตามสัญญาและมีความรับผิดชอบต่อผู้ว่าจ้างทั้งหมด ทำให้ผู้ว่าจ้างถ่ายโอนความเสี่ยงทั้งหมดมาไว้ที่ Outsource ได้เลย
- Subcontract: บริษัทจะรับผิดชอบในการดำเนินงานตามสัญญาและมีความรับผิดชอบต่อผู้ให้เปรียบเสมือนการว่าจ้างซ้อนอีกทีหนึ่งเท่านั้น
- ขอบเขตของงาน:
- Outsource: การ Outsource มักเกี่ยวข้องกับการนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นลักษณะทั้วไป ที่จะต้องส่งมอบแรงงาน หรือผลงานตามที่ตกลงไว้ให้ผู้ว่าจ้าง
- Subcontract: มักเกี่ยวข้องกับการให้บริการหรือดำเนินการที่เฉพาะเจาะจงและเกี่ยวข้องกับโครงการหรือสัญญาที่มีอยู่แล้ว และส่งมอบผลงานที่ได้รับมอบหมายให้ไปจัดการให้แล้วเสร็จโดยอาจจะจ้างบริษัทอื่นทำอีกที เปรียบเสมือนตัวกลางในการประสานงานให้เท่านั้น
- ความเชื่อถือได้:
- Outsource: มักจะเป็นการที่เพิ่มความเชื่อถือในการทำธุรกิจ เนื่องจากบริษัท Outsource มักมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในงานที่มอบหมายในงานนั้นๆ
- Subcontract: ยังคงมีความเชื่อถือได้เช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์ของบริษัท และหน่วยงานที่ประสานงานด้วย
ในทางปฏิบัติทั้งสองเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดค่าใช้จ่าย ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มกำไรให้กับองค์กร โดยการเลือกใช้กลยุทธ์ใดก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและวัตถุประสงค์ของธุรกิจแต่ละราย อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ หวังว่าจากบทความนี้ คุณจะเข้าใจความแตกต่างระหว่าง เอาท์ซอส และซับคอนแทรคมากขึ้น
SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร
หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่คลอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ ได้แก่
- SO Next: โซลูชันด้านการ Lean & Digitization ปรับองค์กรให้คล่องตัวขึ้น โดยให้บริการด้านการจัดการข้อมูล (Data Solution) ด้านแพลตฟอร์มทางธุรกิจ เช่น Business Process Management และด้าน IT Outsource Operation เพื่อสรรหาบุคลากรด้าน IT
- SO People: โซลูชันการจัดหาและบริหาร Workforce ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่น พนักงานขับรถ, พนักงานธุรการ, พนักงานบัญชี ,ช่างเทคนิค รวมถึงบริการจัดหาแรงงานต่างด้าว เป็นต้น
- SO Green: โซลูชันบริหารภูมิทัศน์ด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สีเขียวและไม้ใหญ่ โดยทีมออกแบบและรุกขกรมืออาชีพ
- SO Wheel: ผู้นำด้านรถดัดแปลงและรถเช่าเชิงพาณิชย์ พร้อมระบบติดตามและจัดการยานพาหนะที่สามารถแจ้งเตือนตำแหน่งรถ,อันตราการใช้ความเร็ว รอบการ Maintenance ไปจนถึงระบบการจองรถส่วนกลางสำหรับองค์กรขนาดใหญ่อีกด้วย นอกจากการมุ่งเน้นพัฒนาบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว SO พร้อมสานต่อความสำเร็จจากผลประกอบการในปี 2023 ที่เติมโตต่อเนื่องกว่า 30% ด้วยการยกระดับการให้บริการ สู่ Journey to Next-Level Outsourcing ในปี 2024 พร้อมดำเนินการผ่าน 3 Empower ได้แก่
Empower Brand เดินหน้าสู่ การเป็น Tech-enabled Outsourcing ด้วยการผสานเทคโนโลยีเข้ามาในทุกกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพของ SO ให้แข็งแกร่งและพร้อมส่งมอบบริการที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าของเรา
Empower Sales ด้วยการ Up Skills สู่การเป็นที่ปรึกษากระบวนการทางธุรกิจ พร้อมนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ Pain Point และใช้ Outsouce ในการเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กร
Empower Operation พัฒนาระบบ Lean & Digitization เสริมแกร่งให้ทีมปฎิบัติการของ SO เพิ่มศักยภาพของทีม ให้สามารถบริหารโครงการได้อย่างรวดเร็วถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อมุ่งสู่การเป็น Strategic Partners ที่พร้อมส่งมอบ Solutions ที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของ SO และพาร์ทเนอร์ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
โดยสรุปว่า ปัจจุบันโลกมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา การเลือกใช้บริการ Outsource อาจะไม่เพียงพอ เหล่าบริษัทชั้นนำหลายแห่งจึงมองหา Business Partnership ที่พร้อมทั้งด้าน Workforce และ เทคโนโลยี ที่สามารถช่วยในการวางแผนและปรับกลยุทธ์ในส่วนงานต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น พร้อมปรับตัวรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต