ในโลกแห่งการแข่งขันที่รุนแรง และการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผัน องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวสู่รูปแบบใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่ง Outsourcing กำลังกลายเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเพิ่มขีดความสามารถ ลดต้นทุน และสร้างความคล่องตัวให้ธุรกิจ เพื่อการขึ้นไปอยู่เหนือ คู่แข่งขันทางธุรกิจ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึง 5 ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ Outsourcing เติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมด้วยกรณีศึกษาจากองค์กรชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การแก้ปัญหาขาดแคลนทักษะไอที การปรับโครงสร้างองค์กรให้ยืดหยุ่น ไปจนถึงการหา Strategic Partner เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ ยังมีเคล็ดลับความสำเร็จจากลูกค้าของ สยามราชธานี ที่นำ Outsourcing มาใช้อย่างสร้างสรรค์ ยกระดับการผลิต การขนส่ง การบริการลูกค้า และอีกมากมาย ซึ่งจะช่วยจุดประกายความคิดให้คุณนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจของคุณเอง 

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-คือ-Outsourcing-Assistants-Service-Solution - disruption era

5 ปัจจัยที่ผลักดันเทรนด์ Outsourcing สร้างการอยู่เหนือ คู่แข่งขันทางธุรกิจ

Outsourcing กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรงในวงการธุรกิจไทย จากแรงผลักดันของกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับตัวสู่รูปแบบการทำงานและการให้บริการแบบใหม่ การใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกจึงกลายเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ในการเพิ่มความคล่องตัว ลดต้นทุน และเสริมขีดความสามารถเหนือ คู่แข่งขันทางธุรกิจ ท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เทรนด์ Outsourcing เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในระยะต่อไป ซึ่งประกอบด้วย 5 ปัจจัยหลักดังนี้ 

1.การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะทาง

ปัญหาการขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ โดยเฉพาะในสายงานดิจิทัลและไอที เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทไทยจำนวนมากหันมาใช้บริการ Outsource เพื่อเสริมทีมงานให้มีศักยภาพเพียงพอ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน ระบบ Cloud และ Big Data Analytics 

จากรายงานของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ระบุว่า ในปี 2563 ประเทศไทยขาดแคลนบุคลากรด้าน ICT ราว 3.5 หมื่นคน และในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 แสนคน ทำให้หลายบริษัทจำเป็นต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อให้มีกำลังคนที่เพียงพอต่อการแข่งขันทางธุรกิจ 

กรณีศึกษา:
โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ได้ใช้บริการ Outsource ในการพัฒนาแพลตฟอร์มการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ร่วมกับสตาร์ทอัพด้านดิจิทัลเฮลท์ ช่วยให้สามารถให้บริการและคำปรึกษาผู้ป่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบออนไลน์ 

2.การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและกำแพงภาษีระหว่างประเทศ บริษัทไทยจำเป็นต้องลดต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถตั้งราคาแข่งขันในตลาดได้ การใช้บริการ Outsource จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยควบคุมต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารองค์กร 

โดยเฉพาะในธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ การ Outsource ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากต้นทุนค่าจ้างที่ต่ำกว่า และสิทธิประโยชน์ในเขตส่งเสริมการลงทุน มาเป็นข้อได้เปรียบในการส่งออก 

กรณีศึกษา:
บริษัทผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET รายใหญ่ของโลก ได้ใช้กลยุทธ์ Outsource ในการขยายกำลังการผลิตทั่วโลก โดยร่วมมือกับโรงงานรับจ้างผลิตในประเทศที่มีต้นทุนถูก ช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละภูมิภาคได้รวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการปรับแผนตามสถานการณ์ 

3.การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มความคล่องตัว

องค์กรธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องมีความคล่องตัวและปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุค Disruption บริษัทไทยจำนวนมากจึงใช้ Outsourcing ในการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อลดขนาดพนักงานประจำ และเพิ่มสัดส่วนการใช้บริการภายนอก ซึ่งช่วยให้สามารถปรับกำลังคนให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น 

นอกจากนี้ การ Outsource ยังช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงทักษะเฉพาะทางที่ไม่มีภายใน และสามารถทดลองทำโปรเจกต์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผูกมัดกับบุคลากรประจำ ซึ่งมีต้นทุนในการจ้างงานและพัฒนาสูง 

กรณีศึกษา:
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของไทย ได้เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มครบวงจร โดยใช้บริการ Outsource ในการพัฒนาแอปพลิเคชันและคอนเทนต์ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการเติบโตก้าวกระโดดในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา 

4.การเปลี่ยนโมเดลสู่องค์กรสมรรถนะสูงเพื่อเหนือกว่าคู่แข่ง

ในยุคที่องค์กรต้องแข่งขันด้วยนวัตกรรมและบริการที่เหนือชั้น การใช้ Outsource จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือในการลดต้นทุนอีกต่อไป แต่กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพองค์กร โดยช่วยให้มุ่งเน้นไปที่ภารกิจหลัก (Core Business) และจุดแข็งที่สร้างความแตกต่าง ขณะที่งานสนับสนุนอื่นๆ สามารถใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก 

การ Outsource ในยุคใหม่จึงอยู่บนพื้นฐานของการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ (Business Partnership) ที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถองค์กร ผ่านการแลกเปลี่ยนและพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกัน รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จากผู้ให้บริการ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น 

กรณีศึกษา:
ผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายเอกสารรายหนึ่งของไทย ได้ใช้กลยุทธ์ Specialized Outsourcing ในการเปลี่ยนผ่านจาก “ผู้ขายเครื่อง” สู่การเป็น “ผู้ให้บริการโซลูชันด้านเอกสารครบวงจร” โดยร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ จนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง 

5.การเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัล 

วิกฤต COVID-19 เป็นตัวเร่งให้องค์กรธุรกิจไทยต้องปรับตัวสู่ระบบดิจิทัลอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสู่ออนไลน์มากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการบริการ Outsource ด้านเทคโนโลยีและไอทีเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด 

การใช้ระบบ Cloud, Data Analytics และ AI จากผู้ให้บริการภายนอก ช่วยให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่รูปแบบดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยสูง ขณะเดียวกันก็ช่วยสนับสนุนการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดรับกับความต้องการของตลาด ส่งผลให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้แม้ในช่วงวิกฤต 

กรณีศึกษา:
ผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของไทย ได้หันมาใช้กลยุทธ์ Outsourcing เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัล ทั้งในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ระบบบริหารคลังสินค้าและห่วงโซ่อุปทาน ระบบวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และระบบ Online to Offline ซึ่งช่วยให้สามารถรักษายอดขายและขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงวิกฤต COVID-19

SO-สยามราชธานี-Siamrajathanee-Outsource-คือ-Outsourcing-Assistants-Service-Solution - disruption era case

กรณีศึกษาความสำเร็จจาก สยามราชธานี 

นอกจากกรณีศึกษาจากอุตสาหกรรมต่างๆ ข้างต้นแล้ว ในฐานะผู้ให้บริการ Outsource ชั้นนำของไทยอย่างบริษัทสยามราชธานี ก็มีตัวอย่างความสำเร็จในการช่วยลูกค้าปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กรผ่านการใช้ Outsource ที่น่าสนใจหลายกรณี อาทิ 

กรณีศึกษา: บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงินแห่งหนึ่ง ได้ Outsource งานด้านเอกสาร และกระบวนการให้บริการลูกค้า (Documentation & Customer Workflow) บางส่วนให้กับ สยามราชธานี ทำให้สามารถเพิ่ม Productivity ได้มากกว่า 300% และมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้มีรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นแต่ยังคงจำนวนพนักงาน Core Function เท่าเดิม 

กรณีศึกษา: บริษัทอุตสาหกรรมยานยนต์์์ ได้ใช้บริการ Business Process Outsource (BPO) จาก สยามราชธานี ในการทำหน้าที่สรรหาคัดสรร และฝึกอบรมทักษะบุคลากร สำหรับแผนกทดสอบผลิตภัณฑ์ (Product Testing) ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการ Scale Up / Down พนักงานได้ตามต้องการ, ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงเพิ่มความรวดเร็วในการทดสอบคุณภาพและนำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น  

กรณีศึกษา: ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ที่วางแผนขยายจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 30% ได้เลือกใช้บริการ Workforce Outsource จากสยามราชธานี ในตำแหน่งงานต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่ต้อนรับ (Reception), เจ้าหน้าที่ธุรการ (Admin), เจ้าหน้าที่การตลาดกิจกรรม (Event Marketing) และเจ้าหน้าที่บริการที่จอดรถ (Valet Parking) โดยสยามราชธานีรับหน้าที่สรรหา ฝึกอบรม และบริหารจัดการบุคลากรเหล่านี้ตามมาตรฐานที่กำหนด ช่วยให้ลูกค้าสามารถรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนและเวลาในการบริหารทรัพยากรบุคคลได้อีกด้วย 

บทสรุปการแข่งขันธุรกิจในยุค Disruption 

ในยุค Disruption ที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง Outsourcing กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ Outsourcing เติบโต ได้แก่ การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะทาง การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก ความจำเป็นในการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัว การมุ่งสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูง และการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัล 

กรณีศึกษาจากหลากหลายอุตสาหกรรมและประสบการณ์ของบริษัท สยามราชธานี แสดงให้เห็นว่า การใช้บริการ Outsource อย่างเหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งทางธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงทักษะเฉพาะทาง การเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารทรัพยากร หรือการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล 

ในท้ายที่สุด Outsourcing ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการลดต้นทุน แต่ยังเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลัก พัฒนานวัตกรรม และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุค Disruption 

siamrajathanee-so

SO ผู้นำด้านธุรกิจเอาท์ซอร์สแบบครบวงจร หนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำ Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทาง SO ยังมีการเพิ่มศัพยภาพที่แข็งแกร่งอย่างไม่หยุดนิ่งด้วยการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรทั้งไทยและทั่วโลก เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่ครอบคุลมและพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ

Service 4 Level สำหรับทุกธุรกิจลูกค้า
1. Workforce Outsource บริการด้านบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่การสรรหา การบริหารกำลังคน ไปจนถึงขั้นตอนการจัดการเรื่อง Payroll ครบทั้งกระบวนการ ปัจจุบัน SO บริหารบุคลากรกว่า 10,000 อัตรา ทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชนกว่า 450 หน่วยงาน ทั่วประเทศ
2. Business Process Outsource (BPO) พัฒนาออกแบบ และบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ทรัพยากรด้านแรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้อยู่เหนือคู่แข่งของลูกค้า
3. Specialized Outsource บริการผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น “รุกขกร” งานด้านตัดแต่งต้นไม้ และดูแลภูมิทัศน์ขนาดใหญ่, งานด้านการกำจัดของเสียสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม, การจัดหารรถพร้อมดัดแปลง และจดประกอบสำหรับงาน Logistic
4. IT Outsource & Platform บริการด้านการจัดหาบุคลากรด้าน IT และเทคโนโลยีผัจจุบัน เพื่อการพัฒนากระบวนการทำงาน เช่น เทคโนโลยี RPA, AI, OCR ฯลฯ พร้อมกับระบบที่ทาง SO พัฒนาขึ้น เช่น Digital Signature, ระบบ Time Attendance และระบบ Business Process Management (BPM)
 
จาก 4 Resource ของ SO ซึ่งเป็นส่วนหลักในการเติมเต็มให้กับ Service ทั้ง 4 Level
1.SO People ทรัพยากรด้ารบุคลากร มีความชำนาญด้านการสรรหา และคัดสรร พร้อมทั้งการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกท่าน ก่อนการจัดส่งให้บริการลูกค้า
2.SO Wheel จัดหารถเช่าทั่วไป และรถ EV ทุกประเภท พร้อมทั้งบริการดัดแปลงรถให้เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้าตามต้องการ
3.SO Green ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการภูมทัศน์ หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทั้งการออกแบบ การดูแลต้นไม้ และสภาพแวดล้อมทั้งหมดในพื้นที่
4. SO Next บริหารจัดการข้อมูล หรือเอกสารจำนวนมาก และออกแบบกระบวนการทำงานให้กับธุรกิจลูกค้า ด้วย Lean & Digitize เพื่อการ Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ
 

เป้าหมายของ SO คือการเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้า โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจ ด้วยบริการ Outsource แบบผสานงานด้านบุคลากร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน  เรียกว่า Tech-Enabled Outsourcing Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน พร้อมนำเสนอวิธีการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสมสำหรับทุกธุรกิจ

การเอาท์ซอร์สช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ มีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจตามสถานการณ์ ถ่ายโอนความเสี่ยงต่างๆ ให้ SO จัดการ พร้อมเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำหน้าคู่แข่ง เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ตามแนวคิด "Unlock Possibilities, SO Here We Are"